แปลนิทานอาหรับอย่างไรให้เข้าใจเรื่อง ?

การอ่านนิทานถือว่าเป็นวิธีหนึ่งที่ง่ายที่สุดในการฝึกฝนทักษะด้านการแปลและทักษะอื่นๆที่เกี่ยวข้อง บทความนี้ผมจึงนำเทคนิกการแปลอย่างง่าย ตลอดจนวิธีการแปลมานำเสนอให้กับทุกท่านได้ลองนำไปฝึกกัน เทคนิคเเละวิธีการจะเป็นอย่างไรนั้น มาเริ่มต้นพร้อมๆ กันได้เลยครับ...

ก่อนเข้าเรื่อง - หากมีใครถามขึ้นว่า "ทำไมถึงเลือกแปลนิทาน?" ตอบได้เลยว่า...
1- นิทานส่วนใหญ่ใช้คำและสำนวนที่ไม่ยาก ง่ายต่อการแปลสำหรับผู้ที่เริ่มต้นแปลอาหรับ-ไทย
2- นิทานอาหรับมีหลักไวยากรณ์ที่ไม่ค่อยซับซ้อนมากนัก  จึงง่ายต่อการทำความเข้าใจเนื้อเรื่องหรือบริบทโดยรวมของเรื่อง สำหรับผู้เริ่มต้นควรเลือกเรื่องที่ไม่ยาวจนเกินไป เพื่อป้องกันการเบื่อหน่ายระหว่างการแปล
3- นิทานเป็นจุดเริ่มต้นฝึกฝนทักษะด้านการแปลได้เป็นอย่างดี กล่าวคือ ผู้ที่เริ่มต้นแปลควรเริ่มจากการแปลอย่างง่ายก่อนเป็นอันดับแรก การแปลนิทานจึงเป็นบันไดขั้นแรก สู่การไต่ระดับการแปลที่ยากขึ้นไปในอนคต
4- นิทานมักแฝงด้วยข้อคิดสนุกๆ ทำให้ผู้เริ่มต้นสนุกไปกับการแปล

ขั้นตอนเเละวิธีการแปลนิทานให้เข้าใจเรื่อง...
1- เลือกนิทานเรื่องที่เราสนใจ  สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นแปลแนะนำว่าควรเลือกเรื่องที่ไม่ยาวมากจนเกินไป  มีสระประกอบ เพื่อง่ายในการแปลและเข้าใจเรื่อง อาจจะมีรูปภาพหรือวิดีโอประกอบด้วยก็จะดีมากครับ

2- อ่านเรื่องราวทั้งหมดให้จบ 1-2  รอบ  โดยการอ่านออกเสียงเพื่อเป็นการฝึกทักษะการอ่านไปด้วยในตัว ขณะเดียวกันก็เพื่อเข้าถึงบริบทของเรื่องโดยภาพรวม ถึงแม้ว่าคุณไม่เข้าใจเรื่องโดยสังเขปก็ตาม ในขั้นตอนนี้คุณอาจพบกับคำศัพท์ที่ไม่คุ้นหูคุ้นตามาก่อน

3- หลังจากอ่านจบ 1-2  รอบแล้ว ให้เริ่มค้นหาคำศัพท์ที่เราไม่รู้ความหมายหรืออาจจะเป็นคำที่เราไม่แน่ใจในความหมายที่แท้จริง หรือแปลความหมายอย่างไรให้สละสลวยและเข้ากับบริบท  ซึ่งบางครั้งความหมายของคำศัพท์คำเดียวสามารถแปลได้หลายความหมาย  โดยให้ใช้ดินสอขีดเส้นใต้หรือทำสัญลักษณ์ไว้  หรืออาจจะบันทึกลงสมุดโน๊ตศัพท์ เพื่อค้นหาความหมายต่อไป

4- ค้นหาคำศัพท์ที่ได้ทำเครื่องหมายไว้ในตอนแรกในพจนานุกรม  ส่วนวิธีการหาคำศัพท์นั้นขอแนะนำให้เปิดพจนานุกรมเล่ม  ควรหลีกเลี่ยงการใช้กูเกิลทรานสเลท (Google Translate)  หรือซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ช่วยแปล  เพราะอาจให้ความหมายของคำศัพท์ที่ไม่หลากหลายและแคบเกินไป บางครั้งก็ไม่ตรง  โปรดทราบไว้ว่าคำศัพท์ในภาษาอาหรับตัวเดียวอาจให้ความหมายมากกว่าห้าความหมาย  โดยต้องเลือกความหมายที่เข้ากับบริบทของเรื่องที่เรากำลังแปลอยู่ด้วย  และที่สำคัญในการหาความหมายคำศัพท์ หากเรารู้ไวยากรณ์และรากศัพท์หรือที่มาของคำศัพท์นั้นๆ เเล้ว  จะช่วยในการแปลได้เยอะเลยทีเดียวครับ

5- เรียบเรียงความหมายเป็นภาษาไทยเป็นวรรคๆ  โดยสังเกตเครื่องหมายต่างๆ ในเนื้อเรื่อง เช่น  เครื่องหมายจุลภาค, อัตภาค, อัศเจรีย์  เป็นต้น (บทความว่าด้วยเรื่องเครื่องหมายในภาษาอาหรับ คลิก )

6- ตรวจทานความหมายโดยการอ่านซ้ำหลายๆ รอบ ตรวจสอบคำและการเรียบเรียงเรื่องราวให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย ในขั้นตอนนี้หากมีผู้ตรวจทานหรือบรรณาธิการแปลก็จะดีมากๆ เลยครับ


มาลองดูตัวอย่างการแปลนิทานเรื่องนี้กันครับ...

الخليفة و البنت المتنبئة
กาหลิบและหญิงสาวพยากรณ์

أراد الخلفاء بعد النبي محمد أن يكون جميع العرب مسلمين صالحين، يعبدون الله ويصومون في شهر رمضان ويصلون في المسجد ويدفعون صدقة للفقراء ويحجزون إلى مكةَ.
บรรดากาหลิบต่างก็รู้อยู่แล้วว่าหลังจากนท่านบีมูฮัมหมัด ชาวอาหรับทั้งมวลจะเป็นมุสลิมผู้ที่ใฝ่ในความดี พวกเขาจะเคารพภัคดีต่ออัลลอฮฺ (พระเจ้า) ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ละหมาดในมัสยิด บริจาคทานแก่เหล่าผู้ยากจน และเดินทางไปมักกะฮฺเพื่อการประกอบพิธีฮัจญ์.

وفي أحد الأيام ظهرت فتاة واسمها سميرة من عائلة فقيرة، زعمت أنها نيبة، وأخذت تحكي لصاحبها ولا بناء عائلتها أنها تسمع أصواتًا من السماء، وترى صورَ الملائكة.
อยู่มาวันหนึ่งหญิงสาวนามว่าซามีเราะฮฺได้ปรากฏตัวขึ้น เธอมาจากครอบครัวที่ยากจน และเธอก็ได้อ้างตนว่าเป็นนบี (นบียะฮฺ) เธอได้นำเรื่องราวของเธอไปบอกเล่าแก่เพื่อนของเธอ แต่ครอบครัวของเธอไม่ได้สร้างเรื่องว่าเธอนั้นสามารถได้ยินเสียงจากฟากฟ้าหรือสามารถเห็นเหล่าเทวทูตได้แต่อย่างใด.

اشتهر أمر الفتاة ووصل خبرها إلى الخليفة فضغب غضبًا شديدًا، وأمر بالقبض عليها وإحضارها إليه،
เรื่องราวของเธอเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว จนไปถึงหูของกาหลิบผู้ครองเมือง กาหลิบเมื่อได้ทราบข่าวเช่นนั้น พระองค์เกิดความพิโรธเป็นอย่างมาก  จึงได้รับสั่งจับตัวเธอนำมาให้แก่พระองค์.

: وعندما وقفت أمامه سألها 
ขณะที่เธอยืนอยู่ต่อหน้ากาหลิบ พระองค์ทรงไถ่ถามเธอว่า

هل صحيح ما يقولونه عنك أنك نيبة ؟
เป็นความจริงใช่ไหมที่ผู้คนต่างกล่าวขานว่าเธอเป็นนบี?

نعم، أجابت سميرة بلا تردد، أنا نبية.
เพค่ะ ฉันเป็นนบี ซามีเราะฮฺตอบการหลิบโดยไม่กล่าวซ้ำยืนยันใดๆ

هل أنت مسلمة وتؤمنين بالنبي محمد ؟ سأل الخليفة.
เธอเป็นมุสลิมะฮฺ (มุสลิมหญิง) ที่ศรัทธาต่อนบีมูฮัมหมัดใช่ไหม? กาหลิบถาม

نعم، أنا مسلمة وأومن بالنبي محمد، قالت سميرة، لكن النبي محمدا قال إنه آخر الأنبياء ولا نبي بعده
เพค่ะ, ฉันเป็นมุสลิมะฮฺที่ศรัทธาต่อนบีมูฮัมหมัด, ซามีเราะฮฺกล่าว, แต่นบีย์มูฮัมหมัดเคยกล่าวว่าแท้จริงท่านเป็นนบีท่านสุดท้าย ไม่มีนบีหลังจากท่านอีกแล้ว

:إن النبي محمدا قال 
.لا نبي بعدي، ولم يقل لا نبية بعدي، أجابت سميرة
แท้จริงท่านนบีได้กล่าวว่า ไม่มีนบีอีกแล้วหลังจากฉัน แต่ท่านนบีไม่ได้กล่าวว่าไม่มีนบียะฮฺหลังจากฉันนี่ - ซามีเราะฮฺกล่าวตอบ.

.فضحك الخليفة وأمر بإطلاق سراحها
กาหลิบหัวเราะ และสั่งให้ปล่อยตัวเธอไป

คำศัพท์น่ารู้
- نبي  อ่านว่า "นบี" หมายถึง ศาสดาชาย, ผู้ที่บอกเรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้า, ผู้ที่พระองค์ดลใจให้มาสั่งสอนมนุษย์  (เพศชาย)
- نبية  อ่านว่า "นบียะฮฺ"  หมายถึง ศาสดาหญิง, ผู้ที่บอกเรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้า, ผู้ที่พระองค์ดลใจให้มาสั่งสอนมนุษย์ (เพศหญิง) - หากท่านผู้อ่านรู้ความหมายและความแตกต่างของทั้งสองคำนี้เเล้ว ก็สามารถที่จะเข้าใจเรื่องได้ เเล้วอย่าลืมหัวเราะดังๆ ไปพร้อมกับท่านกาหลิบนะครับ ฮ่าๆๆๆ!!!

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า