1. เริ่มต้นด้วยการออกเสียงพยัญชนะและคำศัพท์ต่างๆ ในขั้นเริ่มต้นคุณอาจจะมีความรู้สึกว่ายาก แต่หากคุณฝึกฝนบ่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ คุณจะมีความรู้สึกขึ้นมาทันทีเลยว่า“ไม่มีอะไรยากในการเรียนภาษาที่สอง”และเพื่อความถูกต้องในการออกเสียงคุณควรฝึกฝนกับเจ้าของภาษา หรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษานั้นๆ โดยตรง
2. เริ่มเรียนรู้ประโยค และการตั้งคำถามเบื้องต้น เช่น การแนะนำตัว, การทำความรู้จัก, การถามเกี่ยวกับสถานที่ เป็นต้น คุณอาจจะฝึกฝนด้วยตนเองหน้ากระจก หรืออาจอาศัยสื่อวิดีโอ ไฟล์เสียง เพื่อเรียนรู้ประโยคนั้นๆ ด้วยตนเอง และควรหมั่นฝึกฝนโดยการออกเสียงประโยคเหล่านั้นซ้ำๆ หลายครั้ง
3. คุณไม่จำเป็นต้องพึ่งหนังสือ หรือไฟล์เสียงอีกต่อไปเพราะทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้นนั้นสามารถหาได้ฟรีจากโปรแกรมอินเตอร์เน็ต
4. หาซื้อพจนานุกรม หรืออาศัยพจนานุกรมออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ต เมื่อคุณพบกับคำศัพท์ใหม่ๆ คุณสามารถที่จะหาความหมายของมันได้จากพจนานุกรม คุณจะรู้ถึงความหมายของคำนั้นๆ ทันที แนะนำว่าควรนำคำศัพท์ใหม่ๆ เหล่านั้นไปใช้ในการแต่งประโยค ควรจดจำคำศัพท์เหล่านั้นเพื่อนำไปใช้ในคราวอื่นๆ และเพื่อเป็นการทบทวนคำศัพท์เหล่านั้นอีกด้วย
5. หาซื้อพจนานุกรมควบคู่ไฟล์เสียง เพื่อเรียนรู้คำศัพท์ คุณอาจจะอาศัยการฟังเพลง และโปรแกรมเรียนรู้ภาษา เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะด้านการออกเสียง และเพื่อเพิ่มคลังคำศัพท์ใหม่ๆ ให้กับตัวคุณได้อีกทางหนึ่ง
6. ควรอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และที่มาเกี่ยวกับภาษานั้นๆ เพื่อการศึกษาเรียนรู้ แนวทางดังกล่าวจะเป็นการรู้ถึงข้อดีของภาษาที่เราเรียนไปพร้อมกับการเปิดโลกทัศน์ให้กับตนเองอีกด้วย
7. หากคุณยังคงอยู่ในระดับเริ่มต้น คุณควรอาศัยหนังสือสำหรับเด็กในการเรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างของภาษาอย่าเขินอายในการเริ่มต้นการเรียนรู้ภาษา
8. อ่านนิตยสาร หนังสือพิมพ์ เพื่อเป็นการเพิ่มคลังคำศัพท์ และเรียนรู้การใช้ถ้อยคำหรือสำนวนในการประกอบการพูดภาษานั้นๆ
9. ควรให้ความสำคัญในเรื่องการเรียนรู้ไวยากรณ์ของภาษานั้นๆ จนกว่าคุณจะสามารถพูด เขียนด้วยกับภาษานั้นๆ ได้อย่างถูกต้อง
10. หาเพื่อนที่เป็นเจ้าของภาษา เพื่อฝึกฝนการพูดและการใช้สำนวนทั่วไปอย่างถูกต้องอย่าเคอะเขินที่จะพูด ควรกล้าที่จะพูดกับเพื่อนๆ เพราะนั่นคือแนวทางสำคัญในการเรียนรู้ภาษา
ที่มา : www.gadyd.com
แปลโดย : Ibnu Ahmad