ครบรอบ 44 ปี วันชาติสหรัฐอาหรับฯ

สำหรับวันสำคัญแห่งการเฉลิมฉลองวันชาติของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ครบ 44 ปีแห่งการก่อตั้งประเทศในวันนี้ 2.12.2015 บทความนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปย้อนรอยประวัติศาสตร์การก่อตั้งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลกกันครับ ...

วันชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตรงกับวันที่ 2 ธันวาคม ของทุกปี ซึงงทุกรัฐได้จัดให้ มีการเฉลิมฉลองงานวันชาติของประเทศตั้ งแต่วันท ี่ 2-10 ธันวาคม โดยถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ รับรู้กันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากประวัติศาสตร์ได้จารึกเกี่ยวกับการรวมประเทศในช่วงต้น ๆ ซึ่งเริ่มจากการวางกรอบแนวคิดการรวมชาติจาก 6 เมืองใหญ่ ได้แก่ อาบูดาบีดูไบ อุมมุลก็ออยูน อัลฟุญัยเราะห์อัชชาริเกาะห์และอัจมาน ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน และมีอํานาจอธิปไตยเป็นหน่งเดียว ซึ่งขั้นตอนการรวมประเทศเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป

ประวัติศาสตร์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ถือว่าก้าวแรกของการใช้แนวความคิดการรวม หัวเมืองเข้าด้วยกันเกิดขึ้นในวันท ี่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2511(1968) โดย เชคซายิด บินซุลฏอน อาลนะห์ยาน เจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบีในขณะนั้น พระองค์ได้เสนอแนวความคิดการรวมหัวเมืองต่อ เชครอชิด บินซาอีด อาลมักตูม เจ้าผู้ครองรัฐดูไบ โดยในเบื้องต้นทั้งสองพระองค์ได้เห็นพ้องกันให้ ประกาศรวมเมืองทั้งสองเข้าด้วยกัน แม้ว่าในขณะนั้จะมีพื้นที่เขตรอยต่อระหว่างสองเมืองซึ่งเป็นเป็นพื้นที่ขนาดเมืองเล็ก ๆ ชื่อว่า อัลสุมัยห์ ซึ่งในที่สุดได้ผนวกรวมด้วยเช่นกัน

ซ้าย : เชครอชิด บินซาอีด อาลมักตูม เจ้าผู้ครองรัฐดูไบ  (2501-2533)

ขวา : เชคซายิด บินซุลฏอน อาลนะห์ยาน เจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบี  (2509-2547)

นอกจากนั้นทั้งสองพระองค์ได้เรียกร้องให้เจ้าผู้ครองรัฐทุกคนที่ปกครองดินแดนบริเวณ แถบที่ราบลุ่มโอมาน ได้แก่ อุมมุลกอยูน รอสอัลคอยมะห์ฟาญีเราะห์ ชารีเกาะห์และ อัจมาน รวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวกันกับอาบูดาบีและดูไบ ที่ี่ได้ปฏิบัติไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งในขณะนั้นได้เชิญเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์และบาห์เรนเข้าร่วมสังเกตการณ์ โดยในการหารือของที่ประชุมได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการร่วม เพื่อศึกษาแนวทางการรวมประเทศ และออกเป็นมติร่วมกัน ทั้งนี้เจ้าผู้ครองรัฐทุกรัฐได้เห็นพ้องกันให้มีการแต่งตั้งคณะมนตรีสูงสุด และคณะมนตรีบริหาร รวมทั้งสํานักงานเลขาธิการข ึ้นในขณะนั้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2512 (1969) เชคซายิด และเชคราชิดได้มีมติเชิญ เจ้าผู้ครองรัฐอื่น ๆ ในภูมิภาคร่วมหารือในประเด็นการรวมชาติซ ึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับช่วง การยกเลิกสนธิสัญญาว่าด้วยรัฐภายใต้การอารักขาของอังกฤษซึ่งจะสิ้นสุดลงในปลาย พ.ศ.2514 (1971) ทําให้เจ้าผู้ครองรัฐทุกรัฐเห็นพ้องกันให้ยึดมั้นตามสนธิสัญญาที่เคยร่วมกันลงนามตั้งแต่ พ.ศ. 2434 (1891) ท ี่ บัญญัติไว้ว่า “มิให้รัฐใด ๆ สละดินแดนหรือให้ดินแดนเพื่อการค้าหรือเช่า หรือดําเนินกิจการทางการเมืองใด ๆ กับชาติใด ๆ นอกเหนือจากความเห็นชอบของอังกฤษ” ดังนั้นในเมื่อมีการประกาศเอกราชจากอังกฤษเสร็จสิ้นทุกรัฐต้องถือว่าดินแดนทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวกัน

ภาพเจ้าผู้ครองนครรัฐทั้ง 7 รัฐ เชิญธงชาติสหรัฐอาหรับฯ ในวันสถาปนาประเทศ
ในวันที่ 2 ธันวาคม 2514 

จนกระทั้งในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2514 (1971) เจ้าผู้ครองรัฐทั้ง 6 รัฐได้ประชุมร่วมกัน และได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั้วคราว พร้อมประกาศให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้รับเอกราชจากอังกฤษ โดยได้ดําเนินกระบวนการตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวในการเลือกตั้งประมุขแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ขึ้น ซึ่งเชคซายิด บินซุลฏอน อาลมักตูม เจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบีได้รับเลือกให้เป็นประมุขของประเทศอย่างเป็นเอกฉันท์มีกําหนดวาระ 2 ปีและเชคราชิด บินซาอีด อาลมักตูม เป็นรองประมุขแห่งรัฐ

ต่อมาในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2514 (1971) คณะมนตรีสูงสุดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ประกาศการยอมรับให้รัฐรอสอัลคอยมะห์เป็นสมาชิกภายใต้รัฐธรรมนูญเดียวกันอีกรัฐหนึ่งถือเป็นรัฐที่ 7 แห่งสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส


ข้อมูลจาก : http://www.parliament.go.th